UFABETWINS รัฐบาลอังกฤษกับการจัดการโควิด-19 และผลกระทบต่อฟุตบอลลีก
UFABETWINS เกิดอะไรขึ้นในตอนนี้ หาก ลิเวอร์พูล ไม่ได้แชมป์ลีกสูงสุดที่รอคอยมา 30 ปี, ลีดส์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่ พรีเมียร์ลีก, ยูโร 2020 ถูกยกเลิก หรือสโมสรในลีกอังกฤษกว่าครึ่งโหลล้มละลาย?
UFABETWINSมีประเด็นปัญหามากมาย แต่กลับมีคำตอบสำหรับปัญหาเหล่านั้นแค่นิดเดียว
อย่างไรก็ตาม สองสิ่งที่เราพูดได้เต็มปากคือ สถานการณ์ตอนนี้มันพุ่งพรวดอย่าวรวดเร็วและไม่มีใครรู้เลยว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปทิศทางไหน
นับตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา มีการยืนยันแล้วว่าทั่วโลกมีผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่มขึ้นแตะตัวเลข 130,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,700 คน
จำนวนเคสในสหราชอาณาจักร(UK) ตอนนี้เข้าใกล้ 600 ราย ขณะที่ในสหรัฐฯ ก็มีมากกว่า 1,300 ราย
โลกฟุตบอลอาชีพ มีเรื่องใหญ่ในฟุตบอลกฤษ เมื่อ อาร์เซน่อล ยืนยันว่า มิเกล อาร์เตต้า กุนซือใหญ่ มีผลตรวจโคโรน่าไวรัสเป็นบวก หลังจาก พรีเมียร์ลีก ออกมายืนยันว่าเกมลีกจะดำเนินต่อไปเหมือนปกติ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
แน่นอนล่ะว่า อาร์เตต้า ต้องกักตัวเองตามคำสั่งของรัฐบาล ซึ่ง อาร์เซน่อล ก็ได้ส่งอีเมล์แจ้งให้ทุกคนในทีมกักตัวเองอีกเช่นกันหากพวกเขาเหล่านั้นมีการใกล้ชิดกับ อาร์เตต้า
เกมพรีเมียร์ลีกที่ อาร์เซน่อล จะบุกไปเยือน ไบรท์ตัน วันเสาร์นี้ถูกยกเลิกทันที
เรื่องนี้ พรีเมียร์ลีก จะต้องมาประชุมกันใหม่อีกครั้งในช่วงเช้าวันศุกร์ เพื่อประเมินสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้
และล่าสุด คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย ปีกดาวรุ่งของ เชลซี ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีเชื้อนี้เช่นกัน
ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่คืนวันพุธ มีผู้เกี่ยวข้องกับนักฟุตบอลอาชีพถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ถึง 4 ราย เริ่มจาก ดานิเอเล่ รูกานี่ ปราการหลัง ยูเวนตุส, มาโนโล่ กับเบียดินี่ กองหน้า ซามพ์โดเรีย จนมาถึง อาร์เตต้า และ โอดอย
ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น คำถามที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อไหร่ที่ สหราชอาณาจักร จะเลือกใช้นโยบาย “Social Distancing” หรือมาตรการระยะห่างทางสังคม และยกเลิกงานที่ให้คนมาอยู่ในที่เดียวกันเยอะ อย่างเช่นเกมฟุตบอล ตามที่หลายประเทศเขาทำกันสักที ?
คุณจะเห็นว่าคำถามมันเริ่มจาก “When”(ควรจะเป็นเมื่อไหร่) ไม่ใช่ “Will”(จะทำหรือไม่) ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่าอีกแค่ 2 สัปดาห์ ที่ อังกฤษ มีโอกาสที่จะเจอการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เหมือนที่ อิตาลี เผชิญ หรือเทียบกับ ฝรั่งเศส และ เยอรมนี ก็อยู่ที่ 1 สัปดาห์ กับ 10 วัน ตามลำดับ
ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าการที่ อิตาลี ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเกิดจากความผิดพลาดในการรับมือ ซึ่งประเทศต่างๆ ก็เรียนรู้จากบทเรียนนี้
อย่างไรก็ตาม การแพร่ระบาดในสหราชอาณาจักรจะเลวร้ายเหมือนกับ อิตาลี หรือเปล่านั้น มันไม่ใช่ประเด็นที่เกี่้ยวกับคำถามในตอนต้นเลย
เพราะการห้ามคนจำนวนมากมารวมตัวกันมันเป็นหนึ่งในไม่กี่มาตรการที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่ตอนนี้แล้ว
และคำถามเดียวคือจะเริ่มทำอย่างนั้นเมื่อไหร่?
ออสเตรีย, บัลแกเรีย, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, โปแลนด์, โรมาเนีย, สเปน และ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นประเทศบางส่วนที่เพิ่งงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันมากกว่า 1,000 คน หรือบังคับให้แต่ละทีมลงเล่นแบบไม่มีคนดู จนถึงตอนนี้รายการที่ได้รับผลกระทบได้แก่เกมฟุตบอล, การแข่งรถมอเตอร์ไซค์, งานมอเตอร์โชว์ และการแข่งมาราธอน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอังกฤษไม่สนใจคำเรียกร้องดังกล่าว โดยอ้างว่าพวกเขาได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญว่าไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนั้น
รัฐบาลอังกฤษพยายามอย่างหนักเพื่อให้ดูเหมือนว่า -ทุกอย่างยังเป็นปกติ-
ยกตัวอย่างการที่ บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีของประเทศ เข้าชมเกมรักบี้ระหว่าง อังกฤษ กับ เวลส์ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน และการที่คนระดับบิ๊กบอกกับสมาคมกีฬาต่างๆ ว่าให้ใจเย็นๆ แล้วแข่งกันตามปกติ ในระหว่างการประชุมที่กรมวัฒนธรรม, สื่อและกีฬา (DCMS) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
บางคนเชื่อว่าการตัดสินใจของทางภาครัฐมันเป็นการตัดสินใจที่สะเพร่า และถ้าเกิดคุณรู้ดีอยู่แล้วว่า วันหนึ่งอาจจะต้องสั่งห้ามการรวมตัวกันในที่สาธารณะ มันก็ควรจะทำไปตั้งแต่ตอนนี้เลยดีว่า
“มาหยุดพักกันสัก 2 สัปดาห์ แล้วรอดูความคืบหน้ากันจะดักว่า” แอนดี้ โฮล์ท เจ้าของทีม แอคคริงตัน สแตนลี่ย์ ทีมในระดับ ลีก วัน ระบุ
“จริงอยู่ว่าประเด็นเรื่องเงินย่อมมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่นั่นควรจะเป็นประเด็นรอง สิ่งที่ผมแนะนำกับคุณแม่ของผมที่อายุ 75 ปีเข้าไปแล้วก็คือให้อยู่ห่างจากสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ซึ่งผมก็คงไม่สามารถพูดกับแฟนบอลของเราในแบบที่ต่างจากที่ผมพูดกับคุณแม่ของผมได้” เจ้าของทีมคนเดิมกล่าวย้ำ
อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ เช่นแหล่งข่าวที่เป็นคนของรัฐ บอกว่าที่ทางภาครัฐตันสินใจแบบนั้นเป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข โดยผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ต้องทำให้ผลดีของการใช้มาตรการขั้นรุนแรงกับผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคมมันมีความสมดุลกัน
หากผลกระทบด้านเศรษฐกิจและสังคม มันมีความรุนแรงกว่ามาตรการขั้นรุนแรง การยกเลิกเกมการแข่งขัน หรือลงเล่นแบบห้ามแฟนบอลเข้าชมก็ถือเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ
นอกจากนี้ มันยังมีความกังวลด้วยว่าทุกคนในวงการกีฬาของ อังกฤษ และประชาชนทั่วไปมีความพร้อมกับเรื่องแบบนี้มากแค่ไหน และถ้ามีการปิดสนามก็จะเป็นการเสี่ยงให้แฟนบอลเข้าไปชมเกมในผับมากขึ้น
ถึงกระนั้น ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงถือเป็นเวลาที่ยาวนานในการแพร่ระบาด
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลอังกฤษ ประกาศทั้งเรื่องเงินกู้ 30 พันล้านปอนด์, การลดภาษีชั่วคราว และการเพิ่มเงินทุนเป็นพิเศษให้กับหน่วยงานด้านการแพทย์
ซึ่งไม่นานหลังจากที่สมุหนายก ริชี ซูนัก ประกาศถึงเรื่องงบประมาณรับมือกับเชื้อโควิด-19 องค์การอนามัยโลกก็ประกาศให้การระบาดของโควิด-19 เป็นภาวะการแพร่ระบาดใหญ่ระดับโลกอย่างเป็นทางการ(pandemic)
หลายคนเชื่อว่าโปรแกรมฟุตบอลในสุดสัปดาห์นี้ของสหราชอาณาจักรจะเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่มีคนเข้ามาดูในสนาม แต่จนถึงตอนนี้เรื่องอย่างเป็นทางการมีแค่ -ทุกคนยังดำเนินไปตามปกติ- จนกว่า คริส วิตตี้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษจะพูดแบบอื่น
ถึงแม้คนอื่นๆ เคยเชื่อว่ามันจะมีการปิดสนามเตะเร็วที่สุดในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่ในวันพฤหัสบดีทางรัฐบาลออกมาบอกว่า กำลังพิจารณาเรื่องการห้ามจัดงานอีเวนต์ต่างๆ อย่างเช่นการแข่งกีฬา แต่ตอนนี้พวกเขาไม่แนะนำให้หยุดการแข่ง
แถมถึงขั้นมีการลือด้วยว่าจะมีการขอร้องให้ทางสถานีโทรทัศน์ทำทุกทางเพื่อไม่ให้คนในผับได้ชมเกมตามผับต่างๆ เพราะมีการกลัวกันว่าแฟนบอลจะเปลี่ยนจากการแห่กันเข้าไปชมเกมในสนาม ไปเป็นการรวมตัวกันดูที่ผับโดยที่ดื่มเบียร์กับกินขนมกันอย่างเริงร่าแทน
ถึงแม้ว่า เดนมาร์ก, ไอร์แลนด์, นอร์เวย์ รวมถึง สหรัฐอเมริกา จะสั่งพักการแข่งขันลีกฟุตบอลของประเทศแล้ว แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของอังกฤษกลับปล่อยให้อีก 24 ชั่วโมงผ่านไปโดยที่ไม่แสดงให้เห็นถึงท่าทีว่าจะมีการสั่งพักการแข่งขันเลย การชี้แจงอย่างเป็นทางการในตอนนี้ คือลีกจะยังแข่งกันต่อไป ตามคำแนะนำจากภาครัฐและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข
อย่างไรก็ตาม จุดยืนดังกล่าวก็กำลังโดนวิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในวงสนทนาส่วนตัว หรือในที่สาธารณะ โดยที่จริงหลายชาติในทวีปยุโรปก็ไม่ได้ใช้จุดยืนแบบของสหราชอาณาจักรอีกต่อไปแล้ว
ขณะเดียวกัน ทางหน่วยงานด้านลีกเองก็มีความขัดแย้งกันเองว่าจะเอายังไงต่อไปดี โดย อีเอฟแอล ซึ่งดูแลการแข่งในระดับ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ, ลีก วัน และ ลีก ทู โมโห พรีเมียร์ลีก ที่มีแผนจะผลักดันให้มันเตะกันแบบไร้คนดูโดยที่ไม่คำนึงเลยว่ามันจะส่งผลกับทีมในลีกล่างๆ มากแค่ไหน เพราะทีมในลีกล่างๆ มีรายได้หลักๆ มาจากวันที่มีการแข่งขัน
อ่านเพิ่มเติม >>> ข่าวฟุตบอล
คลิกเลย >>> https://stroikompleks.com/